7 ผักผลไม้ บำรุงสายตา
1.ผักบุ้ง
2.แครอท
3.ตำลึง
4.ผักคะน้า
5.ฟักทอง
6.มะม่วงสุก
7.มะละกอ
ผักบุ้ง : ผักบุ้งช่วยบำรุงสายตา ไม่ทำให้ปวดตา สายตาสั้น แสบตา จากผักบุ้ง ก็ต้องกินผักบุ้งดิบ ทั้งวิตามิน A และวิตามิน C รวมถึงเบต้าแคโรทีน เป็นวิตามินที่ช่วยป้องกันมะเร็งได้ด้วย นอกจากวิตามินแล้ว ผักบุ้งยังมีเกลือแร่ มีธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือด
แครอท : แครอทมีสารเบต้าแคโรทีนมากที่สุดในบรรดาผักสีส้ม นอกจากนี้มันก็ยังมี วิตามินเอ ซึ่งช่วยในการบำรุงรักษาดวงตาเพราะมีผลต่อปฏิกริยาเคมีของดวงตาต่อแสง และยังช่วยให้มีผิวที่ดีอีกด้วย และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆเช่นมะเร็งได้ดี
ตำลึง : ตำลึงมีคุณค่าทางอาหารสูง ตำลึงเป็นพืชที่มีเบต้าแคโรทีนที่ดีที่สุด เป็นสารกลุ่มคาโรทีนอยด์ทำหน้าที่กรองแสงให้กับดวงตา ป้องกันไฟเบอร์ของเลนส์ตาจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกออกซิไดซ์ด้วยแสง ป้องกันการเกิดต้อ
ผักคะน้า : คะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างการจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอที่มีผลต่อการบำรุงสายตา เสริมสร้างสุขภาพผิวพรรณและต้านทานการติดเชื้อ มีสารลูทีนซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจก
ฟักทอง : ฟักทอง มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ ระบบย่อยอาหาร บำรุงตับไต สร้างเซลล์ใหม่แทนเซลล์เก่าที่ตายไปแล้ว มีสารลูทีนป้องกันการเสื่อมของจุดหรือแสงสีของเรตินามีวิตามินเอ
บำรุงสายตา มีเบตาแคโรทีนซึ่งมีสาร Antioxidant สูงจึงช่วยต้านมะเร็งได้อีกด้วย
มะม่วงสุก : มะม่วงอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ฟอสฟอรัส ใยอาหาร ช่วยบำรุงสายตา บำรุงเหงือกและฟัน ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ลดสิวและริ้วรอยก่อนวัยได้อย่างดี
มะละกอ : มะละกอ อุดมด้วยวิตามินเอ บี1 บี2 แคลเซียม และเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ รับประทานบำรุงผิวพรรณดี
เคล็ดลับในการดูแลรักษาดวงตา
1.ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดๆทุกๆวันตอนเช้า หรือเวลาอื่นๆเช่นตอนเที่ยงหรือบ่ายด้วยเพื่อให้น้ำไปหล่อเลี้ยงตาทำให้ตาไม่แห้ง
2.ห้ามอ่านหนังสือที่แสงสว่างไม่เพียงพอหรือมั่วๆ
3.การมองวัตถุใกล้ๆก่อน แล้วมองวัตถุไกลอีกครั้งจะทำให้มองเห็นได้ชัดเจนขี้น
4.เมื่อมีเวลาว่างควรออกกำลังกายโดยการกระพริบตาไปมาอย่างล่ะสัก 5 วินาที โดยการมองขี้น-ลง การมองซ้าย-ขวา การกลิ้งลูกตาให้เป็นวงกลม
5.การเข้านอนแต่หัวค่ำช่วยให้ลูกตาได้พักผ่อนอีกด้วย
6.การดื่มน้ำมากๆช่วยให้ลูกตาสดชื่นดี และช่วยให้ดวงตามีน้ำหล่อเลี้ยงให้ตา
แหล่งอ้างอิง วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ดร.หรงฮัว จูเกอ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเส็ตส์ สหรัฐอเมริกา, http://www.jaonai.com/health/data/00001-2-1.html